SVI ผู้ถือหุ้นใหญ่จะลดสัดส่วนถือหุ้นในปีนี้, คาดรายได้โต 14%
บมจ.เอสวีไอ(SVI) ผู้ผลิตแผงวงจรไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่ง ออก เผยไม่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายธุรกิจคนต่างด้าว แม้ผู้ถือหุ้น ใหญ่ที่เป็นต่างชาติถือหุ้นเกิน 50% เนื่องจากบริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุน
แต่กองทุน H&Q ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SVI เตรียมลดสัดส่วนถือหุ้นให้ต่ำกว่า 51% ภายในปีนี้ โดยจะขายหุ้นราว 20% หลังกองทุนดังกล่าวจะครบอายุลงทุนในปีนี้
"เราไม่มีผลกระทบจากกฎหมายนี้(ธุรกิจคนต่างด้าว)เพราะเราอยู่ใน BOI และเป็น manufactoring เลยไม่จำเป็นต้องลดสัดส่วน" นายโพธิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SVI กล่าวกับ"รอยเตอร์"
เขากล่าวอีกว่า"แต่กองทุน H&Q จะครบอายุในสิ้นปีนี้ ก็เลยถึงเวลาจะลดสัด ส่วน เพราะอยากได้ผลตอบแทนที่ลงทุน"
เขากล่าวว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่กำลังเจรจาหาพันธมิตรทั้งไทย และต่างชาติ แต่ขณะ นี้เศรษฐกิจชะลอตัว ต่างชาติก็คงไม่กล้าเข้ามาลงทุนในไทย อย่างไรก็ตาม หากลดสัด ส่วนถือหุ้นไม่ได้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็คงต้องต่ออายุกองทุน ซึ่งอาจยืดออกไปอีก 2 ปี
"เราก็หาผู้ลงทุนรายอื่นมาแบ่งซื้อออกไป ไทย ต่างชาติ ก็ได้ เป็นเรื่องที่ เจรจา แต่ตอนนี้เศรษฐกิจชะงัก ต่างชาติก็คงไม่กล้าลงทุนในไทยแล้ว ถ้าลด(สัดส่วนถือ หุ้น)ไม่ได้ ผู้ถือหุ้นใหญ่เราก็คงต้องต่ออายุ อาจ 2 ปี"
"เราคงไม่ขายหุ้นออกมาในตลาด ราคาหุ้นเราก็ต่ำมากแล้ว"เขากล่าว นายโพธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน DBS VICKERS SECURITIES (SINGAPORE) PTE.LTD เป็นตัวแทนถือหุ้น(นอมินี)ให้กับกองทุน H&Q อยู่ ซึ่งกองทุน H&Q คาดจะลดสัด ส่วนถือหุ้น SVI ให้ต่ำกว่า 51% ภายในสิ้นปีนี้
ณ 12 ธ.ค.49 DBS VICKERS SECURITIES (SINGAPORE) PTE.LTD ถือหุ้นใหญ่ราว 70.87%
**เป้ายอดขายปีนี้โต 14%
นายโพธิ์ กล่าวถึงแผนดำเนินงานในปีนี้ว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 160 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นราว 14% จากปี 49 มี 140 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมาจากกำลัง ผลิตที่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีกำลังผลิตสินค้าได้มูลค่าประมาณ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ
เขาคาดว่า ปีนี้บริษัทน่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ระดับที่ดีต่อเนื่องได้ เนื่องจากบริษัท พยายามจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 9.5%
"กำไรปีนี้ น่าจะ in line กับ gross margin ที่เราพยายามรักษาให้อยู่ 9.5% ส่วนบาทแข็งค่า ก็กระทบเราเยอะ แต่มีทำ forward เพราะรายได้เราเป็น ดอลลาร์ จะกระทบเวลาค่าเงินขึ้นๆลงๆ"นายโพธิ์ กล่าว
แต่นายโพธิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ ประเทศไทยมีแต่ปัจจัยลบที่กระทบ การลงทุนในประเทศมาก จึงคาดว่าปีนี้แผนลงทุนโรงงานใหม่ๆน่าจะชะลอไปก่อน โดยจะ มีเพียงลงทุนซื้อเครื่องจักร เพื่อเพิ่มกำลังผลิต
เขากล่าวว่า ตัวเลขเบื้องต้น ยอดขายปีก่อนทำได้เกินเป้าอยู่ที่ 5 พันล้านบาท หรือราว 140 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าเป้าตั้งไว้ที่ 130-135 ล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อต.ค.49 SVI ยังตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 49 ที่ 7 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายโพธิ์ คาดว่า บริษัทจะจ่ายเงินปันผลของผลดำเนินงานปี 49 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ได้ ตามนโยบายจ่ายปันผล 30% ของกำไรสุทธิ
หุ้น SVI ปิดวันนี้บวก 0.99% มาที่ 10.20 บาท
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์ โดย วิไล อักขระสมชีพ.
วันพุธที่ 10 มกราคม 2550
