News

MD's Report ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 และปี 2550

28 กุมภาพันธ์ 2551

รายงานของกรรมการผู้จัดการ
ผลการดำเนินงานของไตรมาส 4 และ ปี 2550

ผลประกอบการรวมในไตรมาสนี้นับว่าเป็นไตรมาสที่มียอดขายสูงสุดโดยมีมูลค่า 48 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ มีมูลค่าเท่ากับ 1,626 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับยอดขายไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับยอดขายไตรมาสก่อนของปีนี้ ตามมูลค่ายอดขายที่เป็นเงินเหรียญสหรัฐ ยอดขายรวมทั้งปี 2550 มีมูลค่า 169 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ มีมูลค่าเท่ากับ 5,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นอัตรา ร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับยอดขายปี 2549 ที่มีจำนวน 135 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ มีมูลค่าเท่ากับ 5,104 ล้าน บาท ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเมื่อคำนวณเป็นค่าเงินบาทจะมีอัตราเพิ่มขึ้นพียงร้อยละ 14 เนื่องจากเงินบาท มีค่าแข็งขึ้นร้อยละ 9 (อัตราเฉลี่ย 2549 : 37.71 บาท เทียบกับ ปี 2550 : 34.38 บาท : 1 เหรียญสหรัฐ ) ยอดขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ความต้องการของลูกค้าในยุโรปยังคงมี สูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯได้เพิ่มกำลังผลิตเพื่อรองรับการเติบโตนี้

อัตรากำไรเบื้องต้นรวมของบริษัทฯในไตรมาสนี้ มีจำนวน 184 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 11 ของรายได้ เพิ่ม จากกำไรเบื้องต้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 26 ล้านบาท กำไรเบื้องต้นรวมของปี 2550 มีจำนวน 634.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นจำนวน 137 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 29 เนื่องจากมียอดขายสูงขึ้น ทั้ง ประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนคงที่เพิ่มขึ้น กำไรเบื้องต้นเฉพาะของบริษัท ไม่ต่างจากงบการเงินรวมอย่าง เป็นนัยสำคัญ เนื่องจากโรงงานที่เทียนจินยังดำเนินงานไม่เต็มประสิทธิภาพ

ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารเฉพาะของบริษัทฯ และ งบการเงินรวมไตรมาสนี้มีจำนวน 71 ล้าน บาท และ 82 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 4 และ 5 ของยอดขายตามลำดับ ค่าใช้จ่ายของงบการเงินรวม เมื่อ เทียบกับค่าใช้จ่ายของไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 4.6 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและการ บริหารเฉพาะของบริษัทฯ และ งบการเงินรวมของปีนี้ มีจำนวน 284.8 ล้านบาท และ 308.8 ล้านบาท เมื่อ เปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 222 ล้านบาท และ 242.2 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้นเป็น จำนวน 62.8 ล้านบาท และ 66.6 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้เพิ่มจำนวนพนักงานสำหรับหน่วยงานการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจ อีกทั้งตั้งสำรองเผื่อสินค้าล้าสมัย สำรองเผื่อหนี้สงสัยจะศูนย์ และ สำรอง เครื่องจักรล้าสมัย เพิ่มขึ้น

กำไรสุทธิของบริษัทฯ ไม่รวมบริษัทย่อยไตรมาสนี้ มีจำนวน 124.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 26 ล้าน บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิของบริษัทฯปีนี้ มีจำนวน 438.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 114.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของปีก่อน เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้น และ มีกำไรจากการขายเครื่องจักรให้บริษัทย่อย อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน กำไรสุทธิรวมของบริษัทฯ ไตรมาสนี้ มีจำนวน 120.7ล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิรวมในไตรมาสก่อนของปีนี้ และ ไตรมาสเดียวกันของปี ก่อน จำนวน 15 ล้านบาท และ 33.7 ล้านบาท กำไรสุทธิรวมของบริษัทฯ ปีนี้ มีจำนวน 384 ล้านบาท เมื่อ เปรียบเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นจำนวน 89 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 30 เนื่องจากมียอดขายเพิ่มขึ้น

เนื่องด้วยประกาศของสภาวิชาชีพบัญชี ฉบับที่ 26/2549 เรื่องมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 44 บริษัทฯได้ เปลี่ยนนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยในงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ จากวิธีส่วน ได้เสียเป็นวิธีราคาทุน ซึ่งบริษัทฯได้ใช้นโยบายบัญชีตามมาตรฐานฉบับใหม่นี้ในปี 2550 และได้ปรับปรุงผล ขาดทุนของบริษัทย่อยย้อนหลัง ตั้งแต่ไตรมาสสามปี 2548 จนถึงไตรมาสสี่ปี 2549 จำนวน 33 ล้านบาท มีผล ทำให้กำไรสะสมของงบการเงินเฉพาะบริษัทฯ สิ้นสุด ณ สิ้นปี 2549 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 31 ล้านบาท บริษัทฯได้ ตั้งสำรองการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 7 ล้านบาท

อนึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าว มีผลเฉพาะรายการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนใน บริษัทย่อยในงบเฉพาะของบริษัทฯเท่านั้น ไม่ได้มีผลกระทบต่องบการเงินรวมหรือการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้บริษัทฯจึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผลซึ่งจ่ายที่อัตราประมาณร้อยละ 30 ของกำไร สุทธิ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงิน แผนการลงทุน ผลการดำเนินงานของบริษัท และ บริษัทย่อยรวมทั้งหมด

ผลกำไรจากงบการเงินรวมของบริษัทฯก่อนหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ (EBIT) และ ก่อนหัก ดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ (EBITDA) ในปีนี้มีจำนวน 325.7 ล้าน บาท และ 582.6 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้น ในอัตราร้อยละ 27.5 และ 39 ตามลำดับ

ตารางเปรียบเทียบงบกำไรขาดทุน ปี 2550 และ ปี 2549

เปรียบเทียบงบดุล สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 และ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 ดังนี้ :

ฐานะทางการเงินเฉพาะของบริษัทฯและงบการเงินรวม ณ 31 ธันวาคม 2550 มียอดสินทรัพย์หมุนเวียนรวม ทั้งสิ้นจำนวน 2,791 ล้านบาท และ 2,835 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากยอดสิ้นปีก่อนเป็นจำนวน 367 ล้าน บาท และ 397 ล้านบาท ตามลำดับ ยอดสินทรัพย์หมุนเวียนของงบการเงินเฉพาะและงบรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 490 ล้านบาท และ 520 ล้านบาทตามลำดับ โดยมี สินค้าคงคลังของงบการเงินเฉพาะและงบรวมของบริษัทฯลดลงเป็นจำนวน 126 ล้านบาท และ 140 ล้านบาท เนื่องจากประสิทธิภาพการจัดการระบบโซ่อุปทาน

งบกระแสเงินสดของบริษัทฯมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องสำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ โดยมีเงินสดสุทธิ จากการดำเนินงาน สำหรับงบการเงินเฉพาะของบริษัท และ งบการเงินรวม จำนวน 785 ล้านบาท และ 773 ล้านบาท ตามลำดับ และ เงินสดสุทธิหลังจากใช้ไปในกิจกรรมลงทุน สำหรับงบการเงินของบริษัท และ งบการเงินรวม จำนวน 601 ล้านบาท และ 624 ล้านบาท

ยอดหนี้สินรวมเฉพาะของบริษัทฯและงบการเงินรวม มีจำนวน 1,133 ล้านบาท และ 1,147 ล้านบาท ตามลำดับ ยอดหนี้สินงบการเงินรวมเพิ่มขึ้นจากจำนวนหนี้สินรวมของสิ้นปีก่อนจำนวน 177 ล้านบาท โดยมี จำนวนลดลงเนื่องจากมีการชำระเงินกู้ระยะสั้นและเงินกู้ระยะยาวจำนวน 20 ล้านบาท และ 60 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 249 ล้านบาท เนื่องจากซื้อวัตถุดิบ และเครื่องจักร มารองรับ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น

ส่วนของผู้ถือหุ้นงบการเงินรวม ณ 31 ธันวาคม 2550 มีจำนวน 2,479 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนเป็น จำนวน 323 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสะสม จากผลกำไรสุทธิของปีนี้จำนวน 384 ล้านบาท และ เพิ่มขึ้นจำนวน 20 ล้านบาท จากการแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิของพนักงาน (ESOP1 และ ESOP4) โดยได้มีการ จ่ายเงินปันผลจำนวน 87 ล้านบาท ในไตรมาสสองปีนี้ ส่วนของผู้ถือหุ้นงบการเงินเฉพาะในไตรมาสนี้มีจำนวน 2,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนเป็นจำนวน 372 ล้านบาท เนื่องจากผลกำไรสุทธิจากผลประกอบการของ โรงงานในประเทศไทยในปีนี้จำนวน 439 ล้านบาท โดยลดลงเนื่องจากมีการจ่ายเงินปันผลในปีนี้

_____________________
(นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ)
กรรมการผู้จัดการ

Attachments