News

สรุปข้อสนเทศ :SVI-W2

BackDec 25, 2006

- สรุปข้อสนเทศ -
ลักษณะ เงื่อนไข และสาระสำคัญใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2 (SVI-W2)

วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2549 (เริ่มทำการซื้อขายวันที่ 27 ธันวาคม 2549)
ประเภทหลักทรัพย์จดทะเบียน ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ 35,872,808 หน่วย โดยจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2549 ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า
จำนวนหุ้นที่รองรับการใช้สิทธิ 35,872,808 หุ้น (Shares)
ผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน)
สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยมีสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท ทั้งนี้ราคาการใช้ สิทธิและอัตราการใช้สิทธิอาจเปลี่ยนแปลงในภายหลังหากมีการปรับสิทธิตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ
ชนิดของใบสำคัญแสดงสิทธิ ชนิดระบุชื่อผู้ถือและเปลี่ยนมือได้
อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ 4 ปี (นับจากวันที่ออกคือวันที่ 15 ธันวาคม 2549 และกำหนดวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 14 ธันวาคม 2553)
ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ หน่วยละ 0 บาท

การกระจายการถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2549

 
จำนวนราย
จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ
% ของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ที่จดทะเบียนในครั้งนี้
1 ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็น Warrant holders :
1.1 รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ
0
0
0.00
1.2 กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหารรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่มีความสัมพันธ์
12
913,644
2.55
1.3 ผู้ถือหุ้นที่ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ > 5 % โดยนับรวมผู้ที่เกี่ยวข้อง
1
25,269,127
70.44
1.4 ผู้มีอำนาจควบคุม
0
0
0.00
1.5 ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
ที่มีข้อตกลงในการห้ามขายใบสำคัญแสดงสิทธิภายในเวลาที่กำหนด
0
0
0.00
2. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายย่อย
ที่ถือไม่ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย
1,288
9,670,779
26.96
3. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย
608
19,258
0.05
รวมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งสิ้น (Total)
1,909
35,872,808
100.00
หมายเหตุ : กำหนดให้ 1 หน่วยการซื้อขาย เท่ากับ 100 หลักทรัพย์

ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายใหญ่ ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2549

ชื่อ
จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ
ร้อยละของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ที่ยื่นจดทะเบียนในครั้งนี้
1. DBS VICKERS SECURITIES (SINGAPORE) PTE LTD*
25,269,127
70.44
2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด
1,123,125
3.13
3. นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ
714,033
1.99
4. น.ส. วราภรณ์ หาญไกรวิไลย์
500,000
1.39
5. UBS AG SINGAPORE,BRANCH -PB SECURITIES CLIENT CUSTODY
432,650
1.21
6. นายสนิท ดุษฎีโหนด
271,000
0.76
7. นายนคร หาญไกรวิไลย์
250,000
0.70
8. นายชาลี โสภณพนิช
186,150
0.52
9. นายสุระศักดิ์ เคารพธรรม
162,500
0.45
10. นายศุภชัย วัชรวสุนธรา
150,000
0.42
รวม (Total)
29,058,585
81.00
* กองทุน Asia Pacific Electronics (BVI) Limited ถือหุ้นผ่าน DBS Vickers Securities (Singapore) Pte Ltd

 

นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้รับชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญตามสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน)

การใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ

1. วันที่แจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ

ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้ในวันที่ 15 มกราคม 15 เมษายน 15 กรกฎาคม และ 15 ตุลาคมของแต่ละปี ตลอดอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ ("วันใช้สิทธิ") โดยหากวันดังกล่าวตรง กับวันหยุดทำการของบริษัทฯ ให้เลื่อนการใช้สิทธิเป็นวันทำการถัดไป ทั้งนี้ วันใช้สิทธิครั้งแรกจะตรงกับวันที่ 15 มกราคม 2551 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายจะตรงกับวันครบกำหนดระยะเวลา 4 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญ แสดงสิทธิ คือวันที่ 14 ธันวาคม 2553 ทั้งนี้ ในกรณีที่วันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทฯ ให้เลื่อนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายดังกล่าว

2. การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ

ในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯแต่ละครั้ง ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ทั้งหมดหรือบางส่วนได้

3. ระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ

ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จะต้องแจ้งความจำนงใน การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 15.00 น. ของทุกวันทำการ ภายในระยะเวลา 5 วันทำการก่อนวันใช้สิทธิในแต่ละคราว ("ระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ") สำหรับวันใช้สิทธิครั้ง สุดท้ายกำหนดให้มีระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายช่วงระยะเวลา15 วันก่อนวันใช้สิทธิ ครั้งสุดท้าย ("ระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย") บริษัทฯ จะไม่มีการปิดสมุดทะเบียน พักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ ยกเว้นการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายจะมีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญ แสดงสิทธิ 21 วันก่อนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย และใบสำคัญแสดงสิทธิจะถูกพักการซื้อขาย (หรือการขึ้น เครื่องหมาย SP) 3 วัน ก่อนวันปิดสมุดทะเบียน ในกรณีที่การปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ ตรงกับวันหยุดทำการของธนาคารพาณิชย์ ให้เลื่อนเป็นวันทำการถัดไป ทั้งนี้ บริษัทฯจะแจ้งข่าวเกี่ยวกับ ระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ อัตราการใช้สิทธิ ราคาที่จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ พร้อมทั้งสถานที่ ที่ใช้สิทธิ ในระบบเผยแพร่ข้อมูล (ระบบ SCP) ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อน ระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิแต่ละครั้ง สำหรับการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย บริษัทฯ จะส่งจดหมาย ลงทะเบียนถึงผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิตามรายชื่อที่ปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ณ วัน ปิดสมุดทะเบียนครั้งสุดท้าย และจะแจ้งข่าวเกี่ยวกับการใช้สิทธิผ่านทางระบบเผยแพร่ข้อมูล (ระบบ SCP) ให้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้ง สุดท้าย

4. สถานที่ติดต่อในการใช้สิทธิ

บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 33/10 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120
โทรศัพท์ : 0-2574-5671 โทรสาร : 0-2574-5672 และ 0-2574-5673

5. ขั้นตอนในการใช้สิทธิ

ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถขอรับแบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิได้ที่บริษัทฯ โดยจะต้องแจ้ง ความจำนงในการใช้สิทธิตามระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิที่ระบุข้างต้น โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่ต้องการใช้สิทธิต้องแจ้งความจำนง และกรอกแบบคำขอเพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือเพื่อให้ออก ใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยยื่นต่อบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้า ซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) ของตน และบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวจะดำเนินการแจ้งกับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด จะ ดำเนินการออกใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญกับบริษัทฯ

วิธีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ

(ก) ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการแจ้งความจำนง การใช้สิทธิ โดยกรอกรายละเอียดและลงลายมือชื่อในแบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ และให้นำส่ง ใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ พร้อมกับแบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญแก่ บริษัทฯ พร้อมกับชำระเงินตามจำนวนที่ใช้สิทธิ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามข้อบังคับ หรือกฎหมายต่างๆ ที่ใช้บังคับเกี่ยวกับการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญด้วยเอกสารและหลักฐานที่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิต้องส่งมอบให้แก่บริษัทฯ มีดังนี้

- แบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญที่ได้กรอกข้อความถูกต้อง ชัดเจนและครบถ้วนแล้ว ทุกรายการ( สามารถติดต่อขอรับได้ตามข้อ 4 สถานที่ติดต่อในการใช้สิทธิ )

- ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ระบุว่าผู้ถือมีสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิ ตามจำนวนที่ระบุอยู่ในแบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ

- ชำระเงินตามจำนวนที่ใช้สิทธิตามที่ระบุในแบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ โดย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจะต้องชำระเป็นเช็ค ดร๊าฟท์ ตั๋วแลกเงินธนาคาร หรือคำสั่งจ่ายเงินของธนาคารที่สามารถเรียกเก็บได้ในเขตกรุงเทพมหานครภายใน 2 วันทำการ นับจากวันใช้สิทธิแต่ละครั้ง โดยขีดคร่อมสั่งจ่าย "บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน)" หรือโอนเงินสด เข้าบัญชีเงินฝากชื่อบัญชี "บมจ. เอสวีไอ เพื่อการเพิ่มทุน" บัญชีเลขที่ 099-2-01010-3 ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ ของธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) สาขา สำนักสาทร พร้อมนำส่งสำเนาใบนำฝากเงินให้แก่บริษัทฯ ทั้งนี้ การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญดังกล่าวจะสมบูรณ์ต่อเมื่อบริษัทฯ สามารถเรียกเก็บเงินจำนวนดังกล่าวได้แล้วเท่านั้น หากเรียกเก็บเงินไม่ได้ด้วยเหตุใดๆ ที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิต้องรับผิดชอบให้ถือว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ดังกล่าวแสดงเจตนายกเลิก ทั้งนี้ บริษัทฯ จะส่งใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ พร้อมกับเช็ค ที่เรียกเก็บเงินไม่ได้คืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 14 วันนับจากวันที่ใช้สิทธิใน แต่ละครั้ง ทั้งนี้ จะไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยให้ไม่ว่าในกรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิยังคง สามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้ในคราวต่อไป เว้นแต่การใช้สิทธิในครั้งนั้นจะเป็นการใช้สิทธิครั้ง สุดท้าย ให้ถือว่าหมดสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวต่อไป

- หลักฐานประกอบการจองซื้อ

1. บุคคลสัญชาติไทย : สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
2. บุคคลต่างด้าว : สำเนาหนังสือเดินทาง พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
3. นิติบุคคลในประเทศ : สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ซึ่งออกให้โดยกระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องไม่เกิน 30 วัน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง และเอกสารหลักฐานของผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อตาม 1. หรือ 2. พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
4. นิติบุคคลต่างประเทศ : สำเนาเอกสารการจดทะเบียนบริษัทรับรองโดย Notary Public หรือหน่วย ราชการที่มีอำนาจไม่เกิน 3 เดือน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องและเอกสารหลักฐานของผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อตาม 1. หรือ 2. พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง

(ข) ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรว่าด้วยหมวดอากรแสตมป์ หรือข้อบังคับ หรือกฎหมายต่างๆ ที่ใช้บังคับในการใช้สิทธิ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมีหน้าที่ต้องรับภาระใน ภาษีอากร (และค่าธรรมเนียม) ใดของตนที่เกิดขึ้นจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ

(ค) จำนวนหุ้นสามัญที่ออกให้เมื่อมีการใช้สิทธินั้น จะคำนวณโดยการนำจำนวนเงินในการใช้สิทธิซึ่งผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิได้ชำระตามที่กล่าวข้างต้น หารด้วยราคาการใช้สิทธิในขณะ ที่มีการใช้สิทธินั้น โดยบริษัทฯจะออกหุ้นสามัญเป็นจำนวนเต็มไม่เกินจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิหรือ ใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิคูณด้วยอัตราการใช้สิทธิ หากมีการปรับราคาการใช้สิทธิ และ/หรืออัตราการใช้สิทธิ แล้วทำให้มีเศษเหลืออยู่จากการคำนวณดังกล่าว บริษัทฯ จะไม่นำเศษดังกล่าวมาคิดคำนวณ และจะชำระเงินที่เหลือ จากการใช้สิทธิดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้สิทธิแต่ละครั้งโดยไม่มีดอกเบี้ย

(ง) ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญในแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 100 หุ้นสามัญ โดยจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ขอใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจะต้องเป็นจำนวนเต็มเท่านั้น ยกเว้น กรณีที่ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมีสิทธิหรือเหลือสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญต่ำกว่า 100 หุ้น ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถ ใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญต่ำกว่า 100 หุ้นได้ โดยจะต้องใช้สิทธิเท่าที่มีทั้งหมดหรือที่เหลืออยู่ทั้งหมดในครั้งเดียว กรณีเป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญในจำนวนเท่าใดก็ได้แต่ไม่เกินกว่า จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวนที่เหลืออยู่และสามารถใช้สิทธิได้ โดยอัตราการใช้สิทธิเท่ากับใบสำคัญแสดงสิทธิ หนึ่งหน่วยต่อหนึ่งหุ้นสามัญ เว้นแต่จะมีการปรับสิทธิตามเงื่อนไขการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ

(จ) การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิและการโอนหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ ไม่มีข้อจำกัดในการโอนใดๆ

(ฉ) หากบริษัทฯ ได้รับหลักฐานใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิหรือจำนวนเงินที่ บริษัทฯ ได้รับชำระไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ในแบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ หรือบริษัทฯ ตรวจสอบได้ว่า ข้อความที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิกรอกลงในแบบแสดง ความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญนั้นไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง หรือปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนถูกต้อง ตามข้อบังคับหรือกฎหมายต่างๆ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องทำการแก้ไข เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขก่อนวันกำหนดใช้สิทธิ มิฉะนั้นแล้วบริษัทฯจะถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ ในครั้งนั้นสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ และบริษัทฯ จะจัดส่งเงินที่ได้รับและใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือ ใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน14 วัน นับจากวันกำหนดใช้สิทธิโดยไม่มี ดอกเบี้ยให้ไม่ว่าในกรณีใดๆ เว้นแต่เป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องทำการแก้ไข ให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลา 3 วันทำการนับจากวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายหากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ ทำการแก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย สิ้นสภาพลง โดยไม่มีการใช้สิทธิและบริษัทฯ จะจัดส่งเงินที่ได้รับและใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญ แสดงสิทธิคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 14 วัน นับจากวันใช้สิทธิโดยไม่มีดอกเบี้ยให้ไม่ว่าในกรณีใดๆ

ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิชำระเงินในการใช้สิทธิไม่ครบถ้วน บริษัทฯ มีสิทธิที่จะดำเนินการประการใดประการหนึ่งต่อไปนี้ ตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร

1. ถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้นสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ หรือ

2. ถือว่าจำนวนหุ้นสามัญที่จองซื้อมีจำนวนเท่ากับจำนวนที่จะได้รับตามจำนวนเงินในการใช้สิทธิ ซึ่ง บริษัทฯ ได้รับชำระไว้จริงตามราคาการใช้สิทธิในขณะนั้น หรือ

3. ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ชำระเงินเพิ่มเติมตามจำนวนที่ประสงค์ จะใช้สิทธิให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้น หากบริษัทฯ ไม่ได้รับเงินครบ ตามจำนวนในการใช้สิทธิภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิในครั้ง นั้นสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ เว้นแต่เป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องชำระเงิน เพิ่มเติมตามจำนวนที่ประสงค์จะใช้สิทธิให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลา 3 วันทำการนับจากวันใช้สิทธิครั้ง สุดท้ายหากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ทำการแก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะถือว่าการ แจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ

กรณีที่ไม่ใช่การใช้สิทธิครั้งสุดท้าย

ในกรณีตามข้อ 1 และข้อ 3 (เฉพาะกรณีที่บริษัทฯ ไม่ได้รับเงินครบตามจำนวนในการใช้สิทธิภายใน ระยะเวลาที่กำหนด) บริษัทฯ จะส่งเงินที่ได้รับไว้และใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่ง บริษัทฯ ถือว่าไม่มีการใช้สิทธิดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิทาง ไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 14 วัน นับจากวันใช้สิทธิ โดยไม่มีดอกเบี้ย

ในกรณีตามข้อ 2 บริษัทฯ จะส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิส่วนที่เหลือ คืนให้กับผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 14 วันนับจาก วันใช้สิทธิพร้อมเงินส่วนที่เหลือ (ถ้ามี) โดยไม่มีดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญ แสดงสิทธิที่ยังไม่มีการใช้สิทธิดังกล่าวยังมีผลใช้สิทธิต่อไปจนถึงวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย

กรณีเป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย

ในกรณีตามข้อ 2 และเป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย บริษัทฯ จะส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิส่วนที่เหลือ ในกรณีที่บริษัทฯ ถือว่ามีการใช้สิทธิเพียงบางส่วนคืนให้กับผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ภายใน 14 วัน นับจากวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ในกรณีตามข้อ 3 และเป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายบริษัทฯ จะส่ง เงินที่ได้รับไว้และใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งบริษัทฯถือว่าไม่มีการใช้สิทธิดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 14 วันนับจากวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย

(ช) เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ได้ ปฏิบัติตามเงื่อนไขการแจ้งความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญกล่าวคือ ได้ส่งมอบทั้งใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือ ใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ แบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ และชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญ ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิจะไม่สามารถเพิกถอนการ ใช้สิทธิได้ เว้นแต่ได้รับการยินยอมเป็นหนังสือจากบริษัทฯ

(ซ) เมื่อพ้นวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิยัง มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของการใช้สิทธิที่กำหนดไว้อย่างครบถ้วน ให้ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทน ใบสำคัญแสดงสิทธินั้นๆ สิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญ แสดงสิทธิจะใช้สิทธิไม่ได้อีก

(ฌ) ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิเป็น จำนวนมากกว่าจำนวนที่ประสงค์จะใช้สิทธิ บริษัทฯ จะทำการส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวนดังกล่าวให้แก่ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิโดยผ่านบัญชีฝากหลักทรัพย์ที่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใน 15 วันทำการนับจากวันใช้สิทธินั้นๆ ทั้งนี้ตามวิธีการที่ได้ระบุมาในแบบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิซื้อ หุ้นสามัญ

(ญ) บริษัทฯ จะยื่นขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ต่อกระทรวงพาณิชย์ตามจำนวน หุ้นสามัญที่ออกใหม่ สำหรับการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ภายใน 14 วันนับตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับชำระค่าหุ้น ครบตามจำนวนที่มีการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง และบริษัทฯ จะดำเนินการจดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ ใช้สิทธินั้นเข้าเป็นผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นตามจำนวนหุ้นสามัญที่คำนวณได้จาก การใช้สิทธิในครั้งนั้น

(ฎ) สถานภาพของหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่อยู่ระหว่างวันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิแสดงความ จำนงในการใช้สิทธิ และบริษัทฯอยู่ระหว่างจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเพื่อรองรับการใช้สิทธิ จะมี สถานภาพและสิทธิเช่นเดียวกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้แสดงความจำนงในการใช้สิทธิ และสถานภาพนี้ จะสิ้นสุดลงเมื่อมีรายชื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ใช้สิทธิปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่กระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นแล้ว ในกรณีที่บริษัทฯ มีการ ปรับสิทธิตามเงื่อนไขการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ

ในช่วงที่บริษัทฯยังไม่ได้นำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิไปจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ หรือ กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้รับจดทะเบียนหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ บริษัทฯ จะดำเนินการปรับสิทธิย้อนหลัง โดยออกหุ้นสามัญใหม่เพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิโดยเร็วที่สุดตามจำนวนที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ สมควรจะได้รับหากการปรับสิทธินั้นมีผลใช้บังคับโดยหุ้นสามัญส่วนที่ออกให้เพิ่มนี้อาจได้รับช้ากว่าหุ้นสามัญ ที่ได้รับก่อนหน้านี้แล้ว

6. ในกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์และ/หรือศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ตลอดจนหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องได้ออก ประกาศ ระเบียบ หรือวิธีปฏิบัติการใดๆ ที่มีผลให้บริษัทฯ ต้องแก้ไขรายละเอียดขั้นตอนในการใช้สิทธิ บริษัทฯ สามารถทำการแก้ไขขั้นตอนการใช้สิทธิให้สอดคล้องกับประกาศ ระเบียบ หรือวิธีปฏิบัติดังกล่าวได้ และต้อง แจ้งให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และสำนักงาน ก.ล.ต. ทราบโดยไม่ชักช้า

การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ

บริษัทฯ จะดำเนินการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญตลอดอายุของ ใบสำคัญแสดงสิทธิ เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาผลประโยชน์ ตอบแทนของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ให้ด้อยไปกว่าเดิม

(ก) เมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ อันเป็นผลมาจากการรวมหุ้น หรือแบ่งแยกหุ้นของบริษัทฯ

(ข) เมื่อบริษัทฯ เสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ ประชาชนทั่วไป และ/หรือ บุคคลในวงจำกัด โดยราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญ ของบริษัทฯ"

(ค) เมื่อบริษัทฯ เสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือประชาชนทั่วไป และ/หรือ บุคคลในวงจำกัด โดยที่หลักทรัพย์นั้นให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ โดยราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อ รองรับการใช้สิทธิดังกล่าวต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ"

(ง) เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ

(จ) เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลเป็นเงินเกินกว่าอัตราร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของ บริษัทฯ สำหรับการดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีใดๆ ในระหว่างอายุของสำคัญแสดงสิทธิ

(ฉ) ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิและผลประโยชน์อันพึงได้ โดย ที่เหตุการณ์ใดๆ นั้น ไม่อยู่ในข้อกำหนดตาม (ก) ถึง (จ) ข้างต้น

ในกรณีที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญและการเปลี่ยนแปลงอัตราการใช้สิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญ (หรือปรับจำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิแทนการปรับอัตราการใช้สิทธิ) รวมทั้งวิธีการ คำนวณถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวตามที่ระบุต่อไปนี้ มิได้ทำให้ผลตอบแทนใดๆ ที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ จะได้รับเมื่อมีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิด้อยไปจากเดิมบริษัทฯ จะดำเนินการปรับราคาการใช้สิทธิ และอัตราการใช้สิทธิ ซึ่งยังคงทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับสิทธิในการซื้อหุ้นที่รองรับไม่ด้อยไปกว่า สิทธิที่กำหนด ในกรณีต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นตามสูตรและวิธีการคำนวณดังต่อไปนี้

(ก) เมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ อันเป็นผลมาจากการรวมหุ้น หรือแบ่งแยกหุ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันที นับตั้งแต่วันที่ จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์

1. ราคาการใช้สิทธิ จะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0 x (Par 1) / Par 0

2. อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x (Par 0) / Par 1

หรือ

จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
NW1 = NW 0 x Ratio 1 /Ratio 0

โดยที่

Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Par 1 คือ มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญหลังการเปลี่ยนแปลง
Par 0 คือ มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญก่อนการเปลี่ยนแปลง
NW 1 คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิภายหลังการเปลี่ยนแปลง
NW 0 คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิก่อนการเปลี่ยนแปลง

(ข) เมื่อบริษัทฯ เสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ ประชาชนทั่วไป และ/หรือ บุคคลในวงจำกัด โดยราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญ ของบริษัท"

การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันที ตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญ จะไม่ได้รับสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Issue) และ/หรือวันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ ออกใหม่แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือบุคคลในวงจำกัด แล้วแต่กรณี

"ราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่" คำนวณได้จากจำนวนเงินทั้งหมดที่บริษัทฯจะได้รับจากการ เสนอขายหุ้นสามัญ หักด้วยค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของหลักทรัพย์ที่ออกนั้น หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ทั้งหมด

"ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ" ได้กำหนดไว้เท่ากับ "ราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญ ของบริษัทฯ" ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในระหว่างระยะเวลา 5 วันทำการ (วันที่หุ้นสามัญของบริษัทฯมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) ติดต่อกันก่อนวันที่ใช้ในการ คำนวณ ซึ่งราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก หมายถึง มูลค่าการซื้อขายหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ หารด้วย จำนวนหุ้นสามัญของบริษัทฯที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

"วันที่ใช้ในการคำนวณ" หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น เดิม (Right Issues) และ/หรือ วันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขาย ให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด แล้วแต่กรณี ในกรณีที่ไม่ สามารถหา "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ" เนื่องจากหุ้นสามัญไม่มีการซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการกำหนดราคายุติธรรมเพื่อใช้ในการคำนวณแทน

อนึ่ง ในกรณีที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญพร้อมกันมากกว่า 1 ราคาเสนอขาย ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องจองซื้อ ด้วยกัน ให้ใช้ราคาเสนอขายทุกราคามาคำนวณราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ แต่ในกรณีที่เสนอ ขายดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องจองซื้อด้วยกันให้นำเฉพาะราคาเสนอขายที่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ" มาคำนวณการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

1. ราคาการใช้สิทธิ จะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0 x [(A x MP) + BX] / [MP (A+B)]

2. อัตราการใช้สิทธิ จะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x [MP(A+B)] / [(A x MP) + BX]

หรือ

จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
NW1 = NW 0 x Ratio 1 / Ratio 0

โดยที่

Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
MP คือ ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ
A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อการจองซื้อ หุ้นสามัญที่ออกใหม่ และ/หรือ ก่อนวันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่แก่ประชาชนทั่วไปและ/หรือ กรณีเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่บุคคลในวงจำกัด แล้วแต่กรณี
B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่จากการเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายต่อประชาชน ทั่วไป และ/หรือ เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
BX คือ จำนวนเงินที่จะได้รับทั้งสิ้นหลังหักค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของ หุ้นสามัญที่ออกนั้น ทั้งการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป และ/หรือเสนอ ขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
NW 1 คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิภายหลังการเปลี่ยนแปลง
NW 0 คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิก่อนการเปลี่ยนแปลง

(ค) เมื่อบริษัทฯ เสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือประชาชนทั่วไป และ/หรือ บุคคลในวงจำกัด โดยที่หลักทรัพย์นั้นให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ โดยราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ เพื่อรองรับการใช้สิทธิดังกล่าวต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ"

การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ จะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญ ไม่ได้รับสิทธิในการซื้อหลักทรัพย์ใดๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Issue) และ/หรือ วันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือ กรณีที่เป็นการเสนอขาย ให้แก่บุคคลในวงจำกัด แล้วแต่กรณี

"ราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับสิทธิ" คำนวณได้จากจำนวนเงินที่บริษัทฯ จะได้รับ จากการขายหลักทรัพย์ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ หักด้วยค่าธรรมเนียม การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของหลักทรัพย์ที่ออกนั้น รวมกับเงินที่จะได้รับจากการใช้สิทธิจองซื้อ หุ้นสามัญนั้นหารด้วยจำนวนหุ้นทั้งสิ้นที่ต้องออกใหม่เพื่อรองรับกับการใช้สิทธินั้น

"ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ" มีความหมายเช่นเดียวกับรายละเอียดในข้อ (ข) ข้างต้น

"วันที่ใช้ในการคำนวณ" หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ที่ ออกใหม่ใดๆ ที่ให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขาย หลักทรัพย์ดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (Right Issue) และ/หรือ วันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ใดๆที่ ให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือกรณีที่เป็นการ เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด แล้วแต่กรณี

1. ราคาการใช้สิทธิ จะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0 x [(A x MP) + BX] / [MP (A+B)]

2. อัตราการใช้สิทธิ จะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x [MP(A+B)] / [(A x MP) + BX]

หรือ

จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
NW1 = NW 0 x Ratio 1 / Ratio 0

โดยที่

Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
MP คือ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ"
A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อการ จองซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ที่มีสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ และ/หรือก่อนวันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ ที่ออกใหม่ที่มีสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญกรณีเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป และ/หรือ กรณีเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่บุคคลในวงจำกัด แล้วแต่กรณี
B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์ใดๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลง สภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญตามที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายต่อ ประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
BX คือ จำนวนเงินที่จะได้รับทั้งสิ้นหลังหักค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย จากการออกหลักทรัพย์ใดๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญสำหรับการ เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด รวมกับเงินที่จะได้รับจากการใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ
NW 1คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิภายหลังการเปลี่ยนแปลง
NW 0 คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิก่อนการเปลี่ยนแปลง

(ง) เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ การเปลี่ยนแปลง ราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ จะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่มีสิทธิรับหุ้นปันผล (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นเครื่องหมาย XD)

1. ราคาการใช้สิทธิ จะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0 x A / (A+B)

2. อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x (A+B) / A

หรือ

จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
NW1 = NW 0 x Ratio 1 /Ratio 0

โดยที่

Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิ ในการรับหุ้นปันผล
B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในรูปแบบของหุ้นสามัญปันผล
NW 1 คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิภายหลังการเปลี่ยนแปลง
NW 0 คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิก่อนการเปลี่ยนแปลง

(จ) เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลเป็นเงินเกินกว่าอัตราร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของบริษัทฯ สำหรับการดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีใดๆ ในระหว่างอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิการเปลี่ยนแปลงราคาการ ใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ จะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (วันแรก ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นเครื่องหมาย XD)

อัตราร้อยละของเงินปันผลที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้น คำนวณโดยนำเงินปันผลที่จ่ายออกจริงจากผลการดำเนินงาน ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี หารด้วยกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของผลการดำเนินงานของรอบระยะบัญชีปีเดียวกัน โดยที่เงินปันผลที่จ่ายออกจริงดังกล่าวให้รวมถึงเงินปันผลที่จ่ายระหว่างกาลในแต่ละรอบบัญชีดังกล่าวด้วย

1. ราคาการใช้สิทธิ จะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 = Price 0 x [MP - (D-R)] / MP

2. อัตราการใช้สิทธิ จะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x MP / [MP ? (D-R)]

หรือ

จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
NW1 = NW 0 x Ratio 1 / Ratio 0

โดยที่

Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
MP คือ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ"
D คือ เงินปันผลต่อหุ้นที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้น
R คือ เงินปันผลต่อหุ้นที่จ่าย หากนำกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 70 มาคำนวณ จากจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล
NW 1 คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิภายหลังการเปลี่ยนแปลง
NW 0 คือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิก่อนการเปลี่ยนแปลง

"ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ" มีความหมายเช่นเดียวกับรายละเอียดในข้อ (ข) ข้างต้น

"วันที่ใช้ในการคำนวณ" หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในเงินปันผล

(ฉ) ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิ และผลประโยชน์ใดๆ อันพึงได้ โดยที่เหตุการณ์ใดๆ นั้น ไม่ได้กำหนดอยู่ใน (ก) ? (จ) ให้บริษัทฯพิจารณาเพื่อ กำหนดการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิใหม่ (หรือจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ) โดย ไม่ทำให้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิด้อยไปกว่าเดิม โดยให้ถือว่าผลการพิจารณานั้นเป็นที่สุด

(ช) การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ (หรือจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ) ตามข้อ (ก) ถึงข้อ (ฉ) เป็นอิสระต่อกันสำหรับในกรณีที่เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นพร้อมกันให้คำนวณการเปลี่ยนแปลง เรียงลำดับดังนี้คือ ข้อ (ก) (จ) (ง) (ข) (ค) (ฉ) โดยในแต่ละลำดับครั้งที่คำนวณการเปลี่ยนแปลงให้คงสภาพของราคา การใช้สิทธิเป็นทศนิยม 3 ตำแหน่งและอัตราการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 5 ตำแหน่ง

(ซ) การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ (หรือจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ) ตามข้อ (ก) ถึงข้อ (ฉ) จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่สูงขึ้น และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิ (หรือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ) ลดลง เว้นแต่กรณีการรวมหุ้น สำหรับการคำนวณจำนวนเงินจากการใช้สิทธิ จะคำนวณ จากราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง (ทศนิยม 3 ตำแหน่ง) คูณกับจำนวนหุ้นสามัญ (จำนวนหุ้นสามัญคำนวณ ได้จาก อัตราการใช้สิทธิใหม่ คูณกับจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่แสดงความจำนงการใช้สิทธิ เมื่อคำนวณได้จำนวนหุ้น ออกมาเป็นเศษหุ้น ให้ตัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง) ในกรณีจำนวนเงินที่คำนวณได้จากการใช้สิทธิ มีเศษของบาทให้ตัดเศษ ของบาททิ้ง สำหรับกรณีที่การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิดังกล่าวมีผลทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่มีราคาซึ่งต่ำกว่า มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ก็ให้ใช้ราคาการใช้สิทธิใหม่ดังกล่าวเว้นแต่จะเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด ห้ามมิให้บริษัทฯออกหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ ให้ถือเอามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทฯเป็นราคาการใช้สิทธิ ใหม่ ส่วนอัตราส่วนการใช้สิทธิใหม่ให้ใช้อัตราการใช้สิทธิที่คำนวณได้ตามข้อ (ก) ถึงข้อ (ฉ) เช่นเดิม

(ฌ) การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ (หรือจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ) ตามข้อ (ก) ถึงข้อ (ฉ) บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งผลการเปลี่ยนแปลงโดยบอกถึงรายละเอียดวิธีการคำนวณและเหตุผลที่ต้องมีการ เปลี่ยนแปลงดังกล่าวต่อสำนักงานก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อแจ้งราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ (หรือ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ) ที่กำหนดใหม่ รวมทั้งวันที่ราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ (หรือจำนวนใบสำคัญ แสดงสิทธิ) ใหม่มีผลบังคับใช้ และบริษัทฯ จะแจ้งรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรืออัตราการ ใช้สิทธิ (หรือจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ) ผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ทราบโดยทันที ณ วันที่มีผลบังคับใช้ต่อการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ (หรือจำนวนใบสำคัญ แสดงสิทธิ)

การออกและส่งมอบหุ้นสามัญออกใหม่

ในการออกและส่งมอบหุ้นสามัญที่ออกใหม่นั้น ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิอาจเลือกรับมอบเป็นใบหุ้นสามัญ หรือโดยผ่านบัญชีฝากหลักทรัพย์ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ โดยใช้ระบบไร้ใบหุ้น (Scripless System) ทั้งนี้ ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องเลือกวิธีการรับมอบหุ้นสามัญวิธีการใดวิธีการหนึ่ง โดยระบุมาในแบบแจ้งความจำนง การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ

- ในการส่งมอบเป็นใบหุ้นสามัญนั้น ชื่อที่จะระบุในใบหุ้นสามัญออกใหม่จะใช้ชื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยบริษัทฯ จะส่งใบหุ้นสามัญไปยังผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่อยู่ที่ได้ระบุไว้ในแบบแสดงความจำนงการ ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 15 วันทำการ นับจากวันใช้สิทธิแต่ละครั้ง เว้นแต่ใน กรณีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทำการแก้ไขตาม หัวข้อวิธีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ข้อย่อย (ฉ) และ เป็นวันกำหนดใช้สิทธิครั้งสุดท้าย บริษัทฯ จะส่งมอบใบหุ้นสามัญภายใน15 วันทำการนับจากวันสิ้นสุด ระยะเวลาการแก้ไขดังกล่าว

- ในการส่งมอบหุ้นสามัญผ่านบัญชีฝากหลักทรัพย์ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์นั้น ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ต้องระบุชื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ชื่อและบัญชีของบริษัทสมาชิกของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ โดยถูกต้องใน แบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ และบริษัทฯ จะส่งมอบหุ้นสามัญผ่านบัญชีฝากหลักทรัพย์ ภายใน 7 วันทำการ นับจากวันใช้สิทธิแต่ละครั้ง เว้นแต่ในกรณีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทำการแก้ไขตาม หัวข้อวิธีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ข้อย่อย (ฉ) และเป็นวันกำหนดใช้สิทธิครั้งสุดท้าย บริษัทฯ จะส่ง มอบหุ้นสามัญผ่านบัญชีฝากหลักทรัพย์ภายใน 7 วันทำการนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการแก้ไขดังกล่าว

ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดให้มีหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ

บริษัทฯ จะชดใช้ค่าเสียหายให้เฉพาะผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มาแจ้งความจำนงที่จะใช้สิทธิในวันกำหนด ใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ซึ่งบริษัทฯ ไม่สามารถจัดให้มีหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิได้และปฏิบัติถูกต้องครบถ้วน ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ 5 ขั้นตอนการใช้สิทธิ ยกเว้นกรณีตามที่ระบุไว้ในข้อจำกัดการโอนหุ้นสามัญ โดย บริษัทฯ จะชำระเป็นเช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายเฉพาะและจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังที่อยู่ที่ได้ระบุไว้ ในใบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง

การคำนวณค่าเสียหายที่บริษัทฯ จะชดใช้ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ จะมีสูตรการคำนวณดังนี้
ค่าเสียหายต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย = B x [MP ? Price 1]

โดยที่

B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ไม่สามารถจัดให้มี และ/หรือ เพิ่มขึ้นตามอัตราการใช้สิทธิที่เปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้นต่อ 1 หน่วย
MP คือ ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯ 5 วันทำการติดต่อกันก่อนวันกำหนดใช้ สิทธิในแต่ละรอบ ซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมาแสดงความจำนงการใช้สิทธิ (ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเท่ากับ มูลค่าการซื้อขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯหารด้วยจำนวนหุ้นของ บริษัทฯที่มีการซื้อขายทั้งหมด)
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่ได้เปลี่ยนแปลงแล้ว ตามข้อเงื่อนไขการปรับสิทธิ

อนึ่ง ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิชาวต่างประเทศที่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ แต่ไม่สามารถจอง ซื้อได้ เนื่องมาจากอัตราส่วนการถือหุ้นของคนที่มิใช่สัญชาติไทยในขณะนั้นเกินกว่าจำนวนที่ระบุไว้ในข้อบังคับ ของบริษัทฯ ในกรณีเช่นนี้ บริษัทฯ จะไม่ชดใช้ค่าเสียหาย หรือดำเนินการอื่นใดให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ชาวต่างประเทศและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิคนที่มิใช่สัญชาติไทยไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย หรือเรียกร้อง ให้บริษัทฯ ชดใช้ใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ดี ใบสำคัญแสดงสิทธิยังมีผลใช้ต่อไปจนถึงวันกำหนดการใช้สิทธิครั้ง สุดท้าย หาก ณ วันกำหนดใช้สิทธิครั้งสุดท้ายผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิใช่สัญชาติไทยยังไม่สามารถใช้สิทธิได้ เนื่องจากอัตราส่วนการถือหุ้นของคนที่มิใช่สัญชาติไทยในขณะนั้นเกินกว่าจำนวนที่ระบุไว้ในข้อบังคับของ บริษัทฯ ให้ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวหมดอายุลง โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิใช่สัญชาติไทยดังกล่าว ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ต่อบริษัทฯ และบริษัทฯจะไม่ดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น

ข้อจำกัดในการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ

ไม่มีข้อจำกัดการโอนใดๆ เว้นแต่เป็นการโอนในช่วงเวลาที่มีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิจะปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ เพื่อพักการโอนใบสำคัญ แสดงสิทธิเป็นระยะเวลา 21 วันล่วงหน้าก่อนวันประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิในการได้รับหรือใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ในฐานะผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือ 21 วันก่อน วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ การปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวัน ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิวันแรก ถ้าวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิวันแรกไม่ตรง กับวันทำการให้เลื่อนเป็นวันทำการถัดไป

ระยะเวลาห้ามจำหน่ายหุ้น (ถ้ามี) - ไม่มี -
อื่น ๆ ที่สำคัญ (ถ้ามี) - ไม่มี -
ที่ปรึกษาทางการเงิน (ถ้ามี) - ไม่มี -
จัดทำโดย บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน)